Tense สำหรับ Academic Essay ทั่วไป ใช้ Tense ไหนให้ดูน่าเชื่อถือ

Tense สำหรับ Academic Essay ทั่วไป ใช้ Tense ไหนให้ดูน่าเชื่อถือ

การเขียนเรียงความเชิงวิชาการ (Academic Essay) นั้นเปรียบเสมือนการนำเสนอหลักฐานและข้อโต้แย้งในศาล หลักฐาน (ข้อมูลในอดีต) ต้องหนักแน่น การตีความ (การวิเคราะห์ในปัจจุบัน) ต้องสมเหตุสมผล ดังนั้นการเลือกใช้ Tense ให้ถูกบริบทจึงสำคัญมากต่อความน่าเชื่อถือของงานเขียนครับ

ในเรียงความทั่วไป Tense ที่เราใช้หลัก ๆ จะมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ Present Tense (ปัจจุบัน) และ Past Tense (อดีต) ส่วน Future Tense จะใช้แค่ในส่วนสรุปเพื่อพูดถึงผลกระทบในอนาคตเท่านั้นครับ

Tense สำหรับ Academic Essay ทั่วไป ใช้ Tense ไหนให้ดูน่าเชื่อถือ

1. Present Tense ปัจจุบันกาล พระเอกของเรียงความวิชาการ

Present Tense ถือเป็น Tense หลัก (Dominant Tense) ที่ใช้มากที่สุดในเรียงความเชิงวิชาการ เพราะหน้าที่ของเรียงความคือการอภิปรายและวิเคราะห์ในบริบทของปัจจุบัน

ใช้ Present Tense เมื่อไหร่

  1. แถลงวิทยานิพนธ์ (Thesis Statement) คุณต้องระบุจุดยืนหรือข้อสรุปหลักของเรียงความใน Present Simple เพื่อแสดงว่านี่คือประเด็นที่คุณกำลังจะพิสูจน์

    • ตัวอย่าง “Air pollution in urban areas is primarily caused by the increase in private vehicle ownership.”

  2. ให้ข้อเท็จจริงสากลหรือข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนแปลง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ นิยาม หรือหลักการที่ได้รับการยอมรับทั่วไป

    • ตัวอย่าง “Water boils at 100 degrees Celsius” or “The Earth revolves around the sun.”

  3. การวิเคราะห์ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น ทุกประโยคที่คุณใช้ในการโต้แย้ง การตีความหลักฐาน หรือการเปรียบเทียบในย่อหน้าเนื้อหา ควรอยู่ใน Present Tense

    • ตัวอย่าง “This data indicates that the unemployment rate correlates with economic recession.”

  4. การอ้างอิงถึงผลงานของนักวิชาการ (Citation) โดยทั่วไปเมื่อคุณอ้างอิงถึงสิ่งที่นักวิชาการคนอื่นเขียนหรือสรุปในงานของเขา เรามักใช้ Present Tense เพื่อเน้นย้ำว่าข้อสรุปนั้นยังคงมีความจริงอยู่ในปัจจุบัน

    • ตัวอย่าง “Smith (2020) argues that this policy negatively impacts small businesses.”

Tense ที่ใช้บ่อยในกลุ่มปัจจุบัน

  • Present Simple (ปัจจุบันแบบง่าย) ใช้เยอะที่สุด เพื่อแสดงข้อสรุป ข้อเท็จจริง การวิเคราะห์ และการอ้างอิง

  • Present Continuous (ปัจจุบันดำเนินอยู่) ใช้น้อย แต่จะใช้เมื่อต้องการเน้นย้ำถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาการเขียนบทความ

    • ตัวอย่าง “While this research is being conducted, the trends in blockchain technology are rapidly changing.”

2. Past Tense อดีตกาล เครื่องมือสำหรับ “นำเสนอหลักฐานและข้อมูล”

แม้ว่า Present Tense จะเป็น Tense หลัก แต่ Past Tense ก็เป็น Tense ที่ขาดไม่ได้ เพราะใช้ในการนำเสนอ หลักฐาน (Evidence) ที่มาสนับสนุนข้อโต้แย้งของคุณ

ใช้ Past Tense เมื่อไหร่

  1. เล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีตต้องใช้ Past Tense

    • ตัวอย่าง “World War II ended in 1945.”

  2. อธิบายขั้นตอนการวิจัย/วิธีการเก็บข้อมูล เมื่อคุณเล่าถึงกระบวนการที่คุณใช้ในการรวบรวมข้อมูลหรือทำการทดลอง (ส่วน Methods ในงานวิจัย) ต้องใช้ Past Tense

    • ตัวอย่าง “We collected data from a sample group of $50$ participants” or “The experiment was conducted under controlled conditions.”

  3. นำเสนอผลการทดลองหรือผลการสำรวจ ตัวเลขหรือข้อค้นพบที่เป็นรูปธรรมจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่คุณได้ทำไปแล้ว (ส่วน Results)

    • ตัวอย่าง “The data showed that 70 percent of respondents had direct experience with this issue.”

Tense ที่ใช้บ่อยในกลุ่มอดีต

  • Past Simple (อดีตแบบง่าย) ใช้มากที่สุดในการเล่าถึงขั้นตอนการวิจัยและผลการทดลอง

  • Past Perfect (อดีตสมบูรณ์) ใช้นาน ๆ ครั้งเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ใน Past Simple ที่คุณกำลังเล่าอยู่

3. Future Tense อนาคตกาล สำหรับ “ข้อเสนอแนะและผลกระทบในอนาคต”

Future Tense มักจะถูกสงวนไว้ใช้ในส่วนสุดท้ายของเรียงความเท่านั้น เพื่อพูดถึงผลลัพธ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือข้อเสนอแนะในการวิจัย/ปฏิบัติงานต่อไป

ใช้ Future Tense เมื่อไหร่

  1. การคาดการณ์ (Prediction) คาดการณ์ผลกระทบหรือแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการวิเคราะห์ของคุณ

    • ตัวอย่าง “If the government fails to intervene, this problem will intensify in the next decade.”

  2. ข้อเสนอแนะ (Recommendation) การเสนอแนะแนวทางการแก้ไขหรือการดำเนินการวิจัยต่อไป

    • ตัวอย่าง “Therefore, future research should focus on…” or “This new measure will significantly reduce greenhouse gas emissions.”

กลยุทธ์การผสม Tense ในโครงสร้างเรียงความ (Academic Essay Structure)

เพื่อให้งานเขียนมีความไหลลื่นและมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ลองใช้ Tense ตามแผนผังนี้ในแต่ละส่วนของเรียงความนะครับ

ส่วนของ Essay

บทบาทหลักของ Tense

Tense ที่ควรใช้

คำแนะนำในการใช้

บทนำ (Introduction)

ระบุภาพรวม, แถลง Thesis

Present Simple

ระบุ Thesis Statement และ Background Fact ที่เป็นความรู้ทั่วไปใน Present Simple

ย่อหน้าเนื้อหา (Body Paragraphs)

นำเสนอหลักฐาน, วิเคราะห์

Present Simple, Past Simple

ใช้ Past Simple เพื่อนำเสนอหลักฐาน/ข้อมูลการทดลอง แล้วใช้ Present Simple ทันทีเพื่อ วิเคราะห์ หรือ ตีความ หลักฐานนั้น

สรุปผลการวิเคราะห์ (Discussion)

อภิปรายผล, เชื่อมโยง

Present Simple

ย่อหน้านี้เน้นการสรุปและตีความผลลัพธ์ ใช้ Present Simple ทั้งหมดเพื่อแสดงว่านี่คือข้อสรุปที่ได้จากงานวิจัย

บทสรุป (Conclusion)

สรุปประเด็น, ข้อเสนอแนะ

Present Simple และ Future Simple

สรุป Thesis (Present Simple) แล้วใช้ Future Simple เพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา หรือทิศทางการวิจัยในอนาคต

ข้อควรระวังในการเขียน Academic Essay

  1. Past Tense ห้ามโต้แย้ง ใช้ Past Tense เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น เมื่อคุณต้องการ วิเคราะห์ โต้แย้ง หรือแสดงความเห็น คุณต้องเปลี่ยนกลับมา Present Tense เสมอ

  2. ความสม่ำเสมอในการอ้างอิง เมื่อคุณเลือกใช้ Present Tense ในการอ้างอิง (เช่น Smith 2020 argues…) คุณต้องใช้ Present Tense กับการอ้างอิงของนักวิชาการคนอื่น ๆ ตลอดทั้งเรียงความ เพื่อรักษาความสม่ำเสมอ

  3. หลีกเลี่ยง Tense ที่ซับซ้อนเกินไป ในงานเขียนวิชาการทั่วไป ควรหลีกเลี่ยง Past Perfect Continuous หรือ Future Perfect Continuous เว้นแต่จะจำเป็นจริง ๆ เพราะอาจทำให้ข้อความกำกวมและอ่านยากครับ

การใช้ Tense อย่างมีระเบียบวินัยจะช่วยเสริมให้เรียงความของคุณดูเป็นมืออาชีพ มีโครงสร้างที่ชัดเจน และสื่อสารประเด็นได้อย่างตรงไปตรงมามากขึ้นครับ ขอให้คุณเขียนเรียงความได้อย่างยอดเยี่ยมนะครับ