อาชีพนักแปล อาชีพอิสระสำหรับคนมีความสามารถด้านภาษา

อาชีพนักแปล อาชีพอิสระสำหรับคนมีความสามารถด้านภาษา

ผมเขียนบทความนี้ขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม โรงงานต่างๆ หลายแห่งที่อยุธยาต้องปิดกิจการ ลูกจ้างจำนวนมากต้องตกงานโดยที่ไม่รู้ว่าโรงงานจะเปิดอีกครั้งเมื่อไหร่ ตอนนี้นำกำลังเข้าสู่ตัวกรุงเทพฯ กว่าจะลงถึงทะเลก็คงสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมหาศาล

วันนี้ผมจึงขอหยิบยกประเทศในการสร้างรายได้อีกทางสำหรับผู้ที่ต้องการหารายได้เพิ่มเติมในกรณีที่มีความสามารถทางด้านภาษา โดยบทความนี้จะขอกล่าวถึงอาชีพนักแปลก่อนเป็นอันแรก โดยจะกล่าวถึงภาษาที่ใช้มากที่สุดในโลกทั้งในอินเตอร์เน็ตและภาษาพูด คุณสมบัติของนักแปลและแหล่งหารายได้ (ตลาดงานของนักแปล) เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างอาชีพต่อไป

ภาษาที่คนทั่วโลกนิยมใช้เป็นภาษาพูดและเพื่อติดต่อสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต

จากข้อมูลของ http://www.toptenz.net/top-10-most-spoken-languages.php ภาษาที่คนพูดมากที่สุดในโลกเรียงลำดับจาก 1-10 ดังนี้

  1. ภาษาจีนกลาง (มีคนพูดมากกว่า 845 ล้านคนทั่วโลก)
  2. ภาษาสเปน (มีคนพูดมากกว่า 329 ล้านคน)
  3. ภาษาอังกฤษ (มีคนพูดมากกว่า 328 ล้านคน)
  4. ภาษาฮินดี (มีคนพูดมากกว่า 242 ล้านคน)
  5. ภาษาอาราบิก (มีคนพูดมากกว่า 221 ล้านคน)
  6. ภาษาเบงกาลี (มีคนพูด 181 ล้านคน)
  7. ภาษาโปรตุเกส (มีคนพูด 178 ล้านคน)
  8. ภาษารัสเซีย (มีคนพูด 144 ล้านคน)
  9. ภาษาญี่ปุ่น (มีคนพูด 132 ล้านคน)
  10. ภาษาเยอรมัน (มีคนพูดประมาณ 90 ล้านคน)

ส่วนภาษา 10 อันดับแรกที่คนนิยมใช้บนอินเตอร์เน็ตในปี 2553 คือภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาโปรตุเกส ภาษาเยอรมัน ภาษาอาราบิก ภาษาฝรั่งเศส ภาษารัสเซีย ภาษาเกาหลี ตามลำดับ ดูได้จากรูปภาพด้านล่าง

ข้อมูลนี้พอจะบอกเราได้ว่า ยิ่งภาษาไหนมีคนใช้เยอะโดยเฉพาะบนอินเตอร์เน็ต ยิ่งต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในภาษานั้นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเพื่อการค้าขายในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทำให้งานทางด้านภาษายังเปิดกว้างสำหรับผู้ต้องการทำงานด้านนี้

คุณสมบัตินักแปล

  1. มีความรับผิดชอบสูง หมายถึง หากเรารับปากที่จะรับงานใดๆ มาทำแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบกับงานนั้น โดยเฉพาะการนัดหมายส่งงาน หากทำงานไม่เสร็จคือคาดว่าจะไม่ทัน ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน หากว่าเรารับงานจากบริษัทแปล ยิ่งต้องควรแจ้งล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เพราะทางบริษัทจะได้ติดต่อแจ้งลูกค้าไว้ หากว่าเราส่งงานล่าช้าอย่างน้อย 1 วัน จะทำให้ลูกค้าหงุดหงิด หาคนทำใหม่ และไม่ยอมจ่ายเงิน จะทำให้เราเสียทั้งลูกค้า เสียเวลา และไม่ได้รับค่าแรง
  2. มีความซื่อสัตย์ หมายถึง เมื่อรับงานมาแล้ว ต้องตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ใช้ความรู้ความสามารถของตนเองที่ได้เรียนมา หากไม่เข้าใจต้องศึกษาข้อมูล บางคนมักง่าย ใช้เครื่องมือช่วยแปล ผลที่ออกมาคืองานใช้ไม่ได้ ลูกค้าไม่พอใจ ทำให้เสียลูกค้าไปในที่สุด หากคนไหนรับงานจากบริษัทแปล แล้วทางบริษัทตรวจพบว่า เราใช้เครื่องมือแปล ทางบริษัททุกแห่งจะแบนหรือไม่ส่งงานให้เราอีก จึงควรมีความระมัดระวังและทำงานด้วยความซื่อสัตย์ดีที่สุด
  3. มีน้ำใจ หมายถึง แม้จะรู้กันอยู่ว่างานที่เรารับมาแปลนั้น จะมีความยากหรือต้องเรียนเป็นเวลาหลายปีกว่าจะแปลได้ก็ตาม ในการคิดราคาให้ลูกค้า ก็ควรจะมีความเหมาะสม ไม่สูงเกินไป เช่น ลูกค้าบางคนเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี ต้องการให้เราแปลบทคัดย่อให้ แต่เราคิดราคาที่สูงมาก ลูกค้าเองก็ไม่ไหว นอกจากนี้ ในส่วนไหนที่เราพอจะบริการได้ก็ควรบริการลูกค้าเพิ่มเติม เช่น ช่วยแปลข้อความในตาราง คำอธิบายใต้รูปภาพ หรือให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเพื่อความสะดวกในการนำงานที่แปลไปใช้ หากเราใส่ใจในรายละเอียด เชื่อแน่นอนว่าลูกค้าต้องมาใช้บริการเราอีกครั้ง
  4. มีความสุข หมายถึง หลายคนมักจะบอกว่าทำงานแปล เป็นงานที่มีความกดดัน แต่ผมมองว่า หากทำงานใดๆ ก็ตามแล้วไม่มีความสุข ก็ยากที่จะทำงานนั้นต่อไป ควรจะมองว่างานแปลเป็นงานที่ท้าทายภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนด งานที่เราทำเป็นงานที่เราสร้างสรรค์ออกมาเพื่อช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เรามีความสุขและคิดบวก เราจะทำงานด้านนี้ได้นานโดยที่ไม่รู้จักเบื่อหน่าย

แหล่งหางานแปล หรือตลาดงานแปล

ในประเทศไทยเอง ก็มีสำนักแปลหลายแห่งเปิดรับสมัครนักอยู่เรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่ประกาศผ่านเว็บไซต์ ซึ่งผมคิดว่าหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่อาจจะเคยมีประสบการณ์ในการสมัครงานในประเทศไทยมาแล้ว ผมจึงอยากจะแนะนำแหล่งงานในต่างประเทศ เพราะเราสามารถรับงานได้อินเตอร์เน็ต ทางต่างประเทศเองก็จ่ายเงินเราส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้ผ่าน PayPal ซึ่งง่ายละสะดวก ในส่วนของ PayPal เองก็สามารถแปลงค่าเงินจากดอลลาร์เป็นเงินบาทให้เราได้ด้วย หากใครยังไม่มีบัญชีของ PayPal ก็ลองไปสมัครดูนะครับ

นี่เป็นรายชื่อเว็บไซต์ในต่างประเทศที่เปิดรับสมัครนักแปลเป็นประจำ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเราต้องกรอกข้อมูลลงในระบบ และทดสอบแบบทดสอบที่ทางบริษัทเตรียมไว้ ก่อนเข้าไปรับงานในระบบ ส่วนการจ่ายค่าดำเนินการก็เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

http://www.onehourtranslation.com

เว็บนี้มีนักแปลจำนวนมากทั่วโลก ทุกภาษา เราสามารถเลือกรับงานได้ตามความพอใจ

https://www.translatorsbase.com/

http://www.translatorpub.com/

http://www.translation-services-usa.com

**นอกจากนี้แล้ว ยังมีเว็บไซต์ที่น่าสนใจอื่นๆ อีก ลองค้นหาดูไปเรื่อยๆ และลองสมัครดูครับ

สุดท้ายนี้หลายคนคงสงสัยว่า รายได้ของนักแปลต่อเดือนน่าจะเท่าไหร่ ผมเรียนตามตรงว่า ตอบยากครับ เพราะบางคนต้องการทำงาน Part-time เอาเวลาหลังเลิกงานประจำมาทำ แต่บางคนก็ทำงานเต็มเวลา รายได้ก็มากขึ้นตามตัว ในบทความต่อไปจะกล่าวถึงอาชีพทางด้านภาษาครับ แต่ทำงานเป็นนักเขียนและนักพิสูจน์อักษร

หากใครมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการแปลก็เพื่อนๆ ได้เลยครับ ขอให้โชคดี…